วิธีการขึ้นรถไฟที่สนามบิน Schiphol ไปยังเมืองต่างๆในเนเธอร์แลนด์
สำหรับนักเรียนใหม่ที่จะมาเนเธอร์แลนด์ ฉบับนี้เรามีขั้นตอนการเดินทางนับตั้งแต่ที่เครื่องบินของน้องๆเดินทางมาถึง Schiphol Airtport ไปจนถึงเมืองที่น้องๆอาศัยอยู่กันครับ
การเตรียมตัววางแผนก่อนการเดินทางด้วยตัวเอง
การวางแผนล่วงหน้าสามารถทำได้บนอินเตอร์เน็ต สามารถเตรียมตัวการเดินทางด้วยตนเองแม้ว่ายังอยู่ในประเทศไทย ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เว็บไซต์ 9292 :
– สามารถใช้วางแผนการเดินทางโดย public transport ทุกประเภทจนเราถึงที่หมาย ตัวอย่างเช่น ต้องการเดินทางจาก สนามบิน Schiphol ไป Wageningen University (Forum building) ซึ่งใกล้กับตึก Bornsesteeg (ป้ายรถเมล์ ) เราสามารถใส่รายละเอียดลงไปบนหน้าเวปไซต์แล้วกด Plan my journey
– ระบบจะวางแผนการเดินทางให้ โดยบอกจำนวนที่เปลี่ยนรถทั้งหมด (changes) ระยะเวลาเดินทาง (1 ชั่วโมง 27 นาที) และรอบรถรอบถัดไป จากข้อมูลข้างบนจะเห็นได้ว่าเราต้องเดินทางไปสถานีรถไฟ Utrecht Centraal ก่อน จากนั้นต้องเปลี่ยนรถไฟที่ชานชลา (spoor-อ่านว่าสปอร์ในภาษาดัชต์) 11a โดยมีเวลาเปลี่ยน 6 นาที หากมีสัมภาระเยอะ สามารถวางแผนนั่งรถไฟจาก Utrecht Centraal ไปยัง สถานีรถไฟ Ede-Wageningen ในรอบถัดไปได้เช่นกัน ค่าเดินทางเราควรเตรียมมาเป็นเงินสดล่วงหน้าให่มีจำนวนเท่ากับ full-fare
2. เว็บไซต์ NS :
– http://www.ns.nl/en/travellers/home
– สามารถใช้วางแผนได้เหมือน 9292 แต่เวปนี้จะเน้นการให้ข้อมูลรถไฟมากกว่า
– ตัวอย่างข้างบนนี้คือการวางแผนเฉพาะเดินทางไปยังสถานี Ede-Wageningen โดยรถไฟ จะสังเกตได้ว่าราคาตั๋วรถไฟชั้น 1 จะมีราคาสูงกว่าชั้น 2 มาก ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงหากมีการวางแผนล่วงหน้านานเกินไป ควรเข้ามาตรวจสอบแผนการเดินทางอีกครั้งก่อนวันที่จะขึ้นเครื่องมาเนเธอร์แลนด์
การเดินทางโดยรถไฟ (หลังจากเครื่องลงแล้ว)
1. หลังจากที่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าเดินทางจากสายพาน ก็จะเดินผ่านทางออกมาที่ Arrival Terminal ซึ่งอาจจะเป็น 1-2 หรือ 3-4
2. เมื่อออกมากจากทางออก
– ให้มองหาป้ายสีเหลืองที่บอกทางไปที่รถไฟ
3. บริเวณทางลงรถไฟจะเป็นลานกว้างเรียกว่า Schiphol Plaza
4. จะมีคนเดินทางเยอะมาก แต่ว่าให้มองหาบริเวณที่ขายตั๋วรถไฟ
5. วิธีการซื้อตั๋วรถไฟ
1. กรณีที่ซื้อตั๋วจากพนักงานที่เคาน์เตอร์
– วิธีนี้เหมาะสำหรับใช้เงินสด
– บอกพนักงานว่าจะเดินทางไปที่เมืองไหน และให้บอกว่าซื้อตั๋วแบบเต็มราคา ( full-fare) แล้วเขาจะบอกราคามา จ่ายเงินและจะได้ตั๋วรถไฟสีเหลือง ตัวอย่างนี้ซื้อจาก Ede-Wageningen เดินทางไป Schiphol (เป็นการเดินทาง “มา” Schiphol))
– ข้อมูลบนตั๋วมีดังนี้ (ตามหมายเลข)
1. วันเดินทาง 27 มกราคม 2555
2. ตั๋วสำหรับโดยสารชั้น 2 (Second class)
3. เดินทางเที่ยวเดียว ( Enkele reis = Single trip)
4. จาก Ede-Wageningen ไปยัง Schiphol
5. ราคา 8.30 ยูโร
6. ตั๋วรถไฟนี้ซื้อเพื่อใช้กับบัตรลดราคา 40% (OV-Chipkaart)
– ตั๋วรถไฟจะบอกรายละเอียดสถานีต้นทางและทางปลายทาง แต่ในตั๋วจะไม่บอกเวลาว่าต้องขึ้นรถไฟที่ชานชลา (Platform or Spoor) อะไร ซึ่งต้องเดินไปดูที่ป้ายแสดงเวลารถออกอีกครั้ง (ระบบรถที่นี่จะต้องดูเวลารถออกและชานชลาที่ป้ายในแต่ละสถานีเอาเอง)
2. กรณีที่ซื้อตั๋วจาก NS ticket machine
– วิธีนี้เหมาะสำหรับใช้ debit card maestro ที่มีระบบ pin (European banks) หรือ credit card (เสียค่าธรรมเนียม)
– ที่เครื่องซื้อตั๋ว เป็นระบบ touch screen สามารถเลือกภาษาอังกฤษได้
– ให้เลือก Single จากนั้นให้เลือก destination เช่น Amsterdam, Utrecht หรือ Ede-Wageningen การเลือกสถานีสามารถเลือกตามตัวอักษรได้
– Second class -> Full fare -> Valid today -> จำนวนตั๋ว จากนั้นเลือกวิธีการจ่ายเงิน หากซื้อตั๋วแบบ open date จะไม่มีวันที่ระบุไว้บนตั๋ว ก่อนใช้จะต้องเอาตั๋วไปประทับวันและเวลาเดินทางที่เครื่องสีเหลือง ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณก่อนทางลงไปยังชานชลา หากลืมอาจถูกปรับ
6. ป้ายบอกเวลารถไฟจะมี 2 แบบ คือ
– แบบแรกคือป้ายธรรมดาทีเป็นสีเหลือง ป้ายแบบนีจะบอกเวลารถไฟที่ยังแต่ละเมืองต่างๆตั้งแต่เช้าจนถึงกลางคืน โดยจะมีรายละเอียดว่า รถไฟออกเวลากี่โมงที่ชานชลาที่เท่าไร สถานีแรกที่อยู่ซ้ายมือคือสถานีปลายทาง แต่ถ้าสถานีแรกไม่ได้เป็นสถานีปลายทาง ให้มองไปทางขวาเพื่อดูว่าสถานที่ที่รถไฟผ่านสถานีที่เราต้องการไปหรือไม่ ถ้าผ่านสถานีที่เราต้องการไป ให้มองย้อนกลับมาที่วัน เวลาและชานชลาที่รถไฟออก (กรุณาไปให้ตรงเวลาที่รถไฟออก ไม่เช่นนั้นก็ต้องรอขบวนอื่น ซึ่งก็ต้องหาจากป้ายสีเหลืองนี้เหมือนเดิม)
– แบบที่สองคือ ป้ายจอคอมพิวเตอร์สีฟ้า ป้ายนี้จะบอกสถานีปลายทาง เวลา ประเภทรถไฟ (Inter City จะเร็วกว่า Sprinter เพราะว่าจอดเฉพาะสถานีหลัก) ชานชลา และสถานีที่จะต้องเปลี่ยนขบวน ป้ายชนิดนี้เหมาะสำหรับดูเวลาการเดินทางไปยังเมืองหลัก เช่น Amsterdam, Rotterdam, Leiden, Utrecht, Den Haag, Nijmegen, Venlo, Roosendaal เป็นต้น ป้ายนี้จะเข้าใจและใช้ง่ายกว่าป้ายสีเหลืองแต่ว่าจะไม่บอกรายละเอียดของสถานีที่จอดระหว่างทาง
7. เมื่อรู้เวลาและชานชลาแล้ว ก็เดินไปยังทางลงชานชลา บริเวณด้านบนป้ายจะบอกสถานีปลายทางและเวลาที่รถไฟออก ซึ่งป้ายของแต่ละชานชลาจะบอกรายละเอียดว่ารถไฟขบวนนั้นจะจอดที่ไหนบ้างก่อนถึงสถานีปลายทาง เช่น ในรูปสถานีปลายทางคือ Nijmegen และรถไฟจะจอดที่สถานีดังต่อไปนี้ Amsterdam Zuid, Amsterdam Bijmer Arena และ Utrecht Centraal
8. เมื่อลงมาที่ชานชลาแล้ว จะมีป้ายบอกรายละเอียดว่ารถไฟขบวนถัดไปจะไปยังสถานีอะไร จะออกเวลากี่โมงและผ่านสถานีไหนบ้าง
9. ก่อนที่จะถึงแต่ละสถานีเจ้าหน้าที่จะประกาศเป็นภาษาดัชต์และภาษาอังกฤษ ถ้าฟังไม่ทัน ก็สามารถถามคนที่นั่งไปด้วยกันได้ว่าใช่สถานีที่จะต้องลงหรือเปล่า
10. นั่งบนรถไฟตู้ที่เขียนเลข 2 (Second class)
11. ขอให้เดินทางไปยังที่พักโดยสวัสดิภาพครับ
หมายเหตุ
ระหว่างที่รอรถไฟอยู่ให้สังเกตเก้าอี้นั่งสีส้ม บนเก้าอี้จะมีสำนวนคำคมเป็นภาษาอังกฤษและภาษาดัชต์เกี่ยวกับชีวิตการเดินทาง เช่น “How far we travel in life matters far less than those we meet along the way – Unknown”
Leave a comment